ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

ความยากของการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

ในปัจจุบันที่มีโรคภัยไข้เจ็บระบาดอย่างไม่สามารถควบคุมได้ทำให้เกิดเป็นโรคแทรกซ้อนโรคภัยไข้เจ็บที่แปลกใหม่หาทางรักษาได้ยาก ทำให้เกิดการทุกข์ทรมานร่างกายและจิตใจแก่ผู้ที่ประสบพบเจอกับโรคต่าง ๆ นั้นเป็นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใกล้ชิดที่ต้องดูแลผู้ป่วยมะเร็งหรือผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังจากโรคที่ตนเองเป็นอยู่  ความยากของการดูแล  มีหลายคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งแล้วสามารถรักษาตัวให้หาย กลุ่มคนเหล่านั้นมักจะเอาชนะโรคร้ายแรงชนิดนี้ด้วยความสุข ตราบใดที่เราไม่ปล่อยให้ตัวเรานั้นมีความทุกข์เข้ามาครอบงำมีความกลัว ความกังวล จนทำให้โรคร้ายนี้ลุกลามไปอย่างเรื้อรัง ซึ่งต้องบอกเลยว่าการดูแลผู้ป่วยมะเร็งนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เนื่องจากสภาพจิตใจของผู้ป่วยนั้นค่อนข้างเปราะบางและมีความเครียดความกังวลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สำหรับผู้ดูแลจะต้องช่วยคลายความกังวลรับฟังความทุกข์ความเจ็บปวดของผู้ป่วย เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเกิดความเครียดหรือความกังวลจนทำให้อาการที่เป็นอยู่นั้นทรุดโทรมลง   ซึ่งผู้ดูแลควรจะเป็นเสาหลักของแรงกำลังใจให้กับผู้ป่วยยังไม่ทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกว่ากำลังเผชิญความทุกข์ความลำบากและความเจ็บปวดนี้อยู่เพียงลำพัง ต้องแสดงให้เห็นว่ามีญาติพี่น้องหรือคนรักเพื่อนสนิทต่าง ๆ อยู่เคียงข้างกับผู้ป่วยอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวอ้างว้างและเกิดความกลัวกับโรคที่ตนเองเผชิญ จนอาจทำให้อาการเหล่านั้นเข้ามาบั่นทอนกำลังใจและเสียสุขภาพจนกลายเป็นโรคมะเร็งรุนแรงและมีการลุกลามไปในวงกว้าง   แต่ในทางตรงข้ามถ้าผู้ป่วยมีความสุขการดูแลผู้ป่วยมะเร็งก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและไม่ซับซ้อน เพราะหากผู้ป่วยเอาชนะโรคนี้ด้วยความสุข จะทำให้มีกำลังใจที่อยากจะดูแลรักษาตนเองและฝ่าฟันกับความเจ็บปวดในการรักษาและในการฆ่าเชื้อเซลล์มะเร็งไปได้อย่างไร้กังวล นอกจากนี้การดูแลตนเองควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ดูแลและความร่วมมือจากตัวผู้ป่วยเองด้วยนั้นที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งและมีวินัยในการดูแลรักษาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการทานยาหรือการมาเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอและไม่ขาดตกบกพร่องสักครั้งเดียว  มีจิตใจที่เข้มแข็งพร้อมต่อสู้กับโรคภัยอย่างไม่หวัดกลัวและมีความหวังว่าจะสามารถทำลายเชื้อมะเร็งได้อย่างหมดสิ้นและหายจากโลกนี้ได้อย่างเป็นปลิดทิ้ง รวมทั้งยังทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกครั้ง โดยมีความระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ประมาทในการใช้ชีวิตมีวินัยในการดูแลตนเองและมีการดูแลสุขภาพร่างกายตนเองอย่างรอบคอบและคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมามากกว่าเดิม ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ฝ่าฟันกับโรคมะเร็งนี้ไปได้จะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งและมีภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตทำให้มีอายุที่ยืนยาวมากกว่าคนปกติที่ไม่เคยเผชิญกับโรคมะเร็งเสียด้วยซ้ำ จึงอยากบอกกับผู้ป่วยโรคมะเร็งว่าการเจ็บป่วยอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีน่ายินดีเท่าไหร่นักแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเสมอไปหากเราหยิบเอามุมมองที่ดีออกมาเป็นกำลังใจให้ตนเองให้ฝ่าฟันทุกอุปสรรคในชีวิตไปได้